ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน โพสต์ IG – วันที่ 10 มิ.ย. จากกรณีเหตุการชุมนุมประท้วงครั้งประวัติศาสตร์ของชาวฮ่องกงนับตั้งแต่การปฏิวัติร่มเมื่อปี 2007 เมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ประชาชนนับล้าน ราว 14 %ของประชากรทั้งหมด ออกมาเดินประท้วงร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างจีน ฮ่องกง ไต้หวัน มาเก๊า
การประท้วงเกิดจากความกริ่งเกรงว่าจะเป็นการเปิดช่องให้จีนเข้ามามีอิทธิพลเหนือฮ่องกง
และใช้กฎหมายจับผู้เห็นต่างทางการเมืองส่งทางการจีน จนสถานกงศุลไทยต้องออกแถลงการณ์เตือนให้ประชาชนชนไทยหลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมนุม (ล่าสุดยกเลิกประกาศดังกล่าวแล้ว) ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ก็เป็นพระองค์หนึ่งที่ติดโรงแรมจากสถานการณ์ดังกล่าว ทรงเล่าผ่าน อินสตาแกรม nichax ว่า
“วันนี้ดิฉันต้องไปอัดรายการ To Be Number One Variety 4 เทปที่ NBT แล้ววันอังคารต้องเดินทางไปทำงานที่กระบี่-พัทลุง แต่ตอนนี้เรายังอยู่ฮ่องกงอยู่เลย เพราะว่าเขามีการประท้วงใหญ่ คือคนฮ่องกงเขาออกมาประท้วงที่จะมีการออกกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปยังประเทศที่ยังไม่ได้มีสนธิสัญญาแลกเปลี่ยนผู้ร้ายข้ามแดนกัน โดยเฉพาะประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน การออกมารวมพลังประท้วงคราวนี้มีคนออกมาร่วมเยอะที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลย คือวันเดียวนี้แหละคือวันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน 2019 นี้ ว่ากันว่ากันว่ามีคนออกมา 500,000 คนบางสื่อว่ามีคนออกมาถึง 1 ล้านคนเลย! คือมีการร่วมมือร่วมใจกันอย่างได้ผลเป็นอย่างยิ่ง แต่นั่นคือเหตุผลที่เรายังกลับเมืองไทยไม่ได้ เพราะเราไป airport ไม่ได้ เพราะเขาเดินผ่าน Causeway Bay มารวมตัวหน้าโรงแรมเราแถว Central อย่างมืดฟ้ามัวดิน และยังเข้ามาในศูนย์การค้าใต้โรงแรมเราเพราะข้างนอกร้อนจัดมาก บางคนหิวข้าวก็เข้ามากินข้าวในโรงแรมแถวๆ นี้
อย่างไรตาม บ่ายนี้ดิฉันก็คงกลับไทยไปทำรายการได้แล้ว เพราะผู้ประท้วงน่าจะแสดงวิสัยทัศน์เสร็จแล้ว เราจะได้ไปทำงานของเราได้ทันเวลา #ไม่ว่างไม่ใช่ไม่สวย”
ทั้งนี้หลังควบคุมตัวได้ พ.ต.อ. อารยพัน พุกบัวขาว รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประวิทย์เอ้งฉ้วน ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.เทิดทูล สร้อยสุภาพันธ์ ผกก.สภ.ฉลอง และ ว่าที่ร้อยตรี วิกรม จากที่ นายอำเภอเมืองภูเก็ต และพนักงานสอบสวนร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุและร่วมสอบปากคำ นายพิมลศักดิ์ผู้ก่อเหตุ
จากการสอบสวน ทราบว่า นายพิมลศักดิ์ จันทรัฐ อายุ 26 ปี ชาว อ.เมือง จ.ตรัง ผู้ก่อเหตุ ได้รู้จักกับนางสาวเพ็ญนภา เอี่ยมสำราญ อายุ 27 ปี ทางเฟสบุ๊ก และตัดสินใจคบหากันประมาณ 5 เดือนที่ผ่านมา แต่ นายพิมลศักดิ์ เป็นคนอารมณ์ร้อนชอบทุบตีนางสาวเพ็ญนภาเป็นประจำและมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทำให้นางสาวเพ็ญนภาต้องการขอแยกทาง โดยก่อนเกิดเหตุนายพิมลศักดิ์ได้พยายามติดต่อนางสาวเพ็ญนภา ทางโทรศัพท์แต่ติดต่อไม่ได้ เพราะ นางสาวเพ็ญนภาไม่รับสายเนื่องจากอยากแยกทาง นายพิมลศักดิ์จึงบุกมาหาที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านของนางสาวเพ็ญนภา ในเวลาประมาณเที่ยงคืนที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นมีสมาชิกในครอบครัวอาศัยอยู่รวมกันประมาณ 11 คน รวมทั้ง นางสาวเพ็ญนภา และนอกจากนี้ยังมีผู้สูงอายุและเด็กอยู่ด้วย เมื่อนายพิมลศักดิ์ มาถึงก็ได้พยามยามหาตัวนางสาวเพ็ญนภาในห้องนอน แต่ไม่พบเนื่องจากหลบอยู่ในห้องนอนของพี่สาว จากนั้นนายพิมลศักดิ์ จึงได้มานั่งดื่มเบียร์ กับ นายศักดิ์สิทธิ์ เอี่ยมสำราญ อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายของน.ส.เพ็ญนภา ก่อนที่จะมีปากเสียงกันขึ้น นาย พิมลศักดิ์จึงใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่นายศักดิ์สิทธิ์ 2 นัด ทำให้กระสุนถูกเข้าบริเวณขาของนายศักดิ์สิทธิ์ ได้รับบาดเจ็บ และกระสุนเฉี่ยวโดนแขนของนายพงศกร เอี่ยมสำราญ 22 ปี ลูกชายของนายศักดิ์สิทธิ์ /หลานของน.ส.เพ็ญนภาอีก 1 นัดได้รับบาดเจ็บ ระหว่างนั้นนางสาวเพ็ญนภาซึ่งหลบอยู่ในห้องนอนพี่สาวเห็นท่าไม่ดีจึงรีบหลบหนีออกมาจากห้องนอนของพี่สาว ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าช่วยเหลือ
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาหนักกับ นายพิมลศักดิ์ ผู้ก่อเหตุ ทั้ง ความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน และ พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ และจากการตรวจสอบประวัติเพิ่มเติมพบว่า นาย พิมลศักดิ์เคยต้องโทษในคดียาเสพติด และเพิ่งพ้นโทษเมื่อ ปี 2559ที่ผ่านมา
โชว์เทพ ใช้กล้อง OnePlus 7 Pro ถ่ายภาพลงปกนิตยสารดังเมืองนอก แบบไม่มีรีทัช
ถึงแม้กล้องบนสมาร์ทโฟนจะอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆมาก แต่ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่ค่อนข้องเยอะ เมื่อเทียบกับกล้อง DSLR ด้วยข้อจำกัดในเรื่องของขนาดที่ต้องอิงตามตัวของสมาร์ทโฟนนั้นๆ แต่ปัจจุบันกล้องสมาร์ทโฟนเหล่านี้ ล้ำหน้าไปไกลและสามารถให้ภาพที่ออกมามีคุณภาพเท่าเทียมสูสีกับกล้องรับดับโปรอยู่มากพอสมควร
ล่าสุด นิตยสาร Harper’s Bazaar India ได้มีการใช้สมาร์ทโฟน ถ่ายภาพดารานางแบบชื่อดัง Jameela Jamil เพื่อลงในหน้าปกของนิตสาร ด้วยเจ้า OnePlus 7 Pro , ที่มีกล้องหลังถึง 3 ตัวกับความละเอียดสูงสุดที่ 48 ล้านพิกเซล โดยทางนิตสารออกมาเคลมว่าภาพที่ใช้ไม่ผ่านฟิลเตอร์หรือการตกแต่งใดจากคอมพิวเตอร์เลย เป็นภาพที่ถ่ายจาก OnePlus 7 Pro แล้วนำมาใช้เลย
ทางนิตยสารยังไม่ได้มีการออกมาให้รายละเอียดที่แน่ชัดว่า ภาพถูกถ่ายด้วยโหมดอะไร แต่สันนิษฐานว่าน่าจะมีการตั้งค่าอะไรบางอย่างก่อนถ่าย และโหมดที่ใช้ถ่ายน่าจะเป็นโหมกภาพบุคคลหรือ Portrait Mode