นักวิ่งทั่วโลกกว่า 12,000 คนร่วมชิงชัย วิ่งมาราธอน ลากูน่า ภูเก็ต ครั้งที่ 14

นักวิ่งทั่วโลกกว่า 12,000 คนร่วมชิงชัย วิ่งมาราธอน ลากูน่า ภูเก็ต ครั้งที่ 14

ญี่ปุ่นซิวแชมป์ระยะมาราธอนชาย-หญิง ด้านฟิลิปปินส์กวาดแชมป์ฮาล์ฟมาราธอนชาย-หญิง “ฝน-ณัฐธยาน์ ธนรณวัฒน์” อดีตนักวิ่งทีมชาติไทย คว้าที่2 ระยะฮาล์ฟมาราธอนหญิง สำหรับการแข่งขันวิ่งมาราธอน ลากูน่า ภูเก็ต 2019 จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 8-9 มิถุนายน 2562 ณ ลากูน่า ภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต แบ่งระยะทางเป็น 6 ประเภท คือ การแข่งขันวิ่งยุวชน 2 กิโลเมตร (Kids Run), วิ่ง 5 กิโลเมตร, วิ่ง 10.5 กิโลเมตร วิ่งฮาล์ฟมาราธอน 21.0975 กิโลเมตร (Half Marathon), มาราธอน 42.195 กิโลเมตร (Marathon) และมาราธอนประเภททีม 42.195 กิโลเมตร (Marathon Relay)

สำหรับระยะมาราธอนในปีนี้ ทากาชิ มิโนะ จากญี่ปุนคว้าแชมป์ระเภทชาย เวลา 2:35:02 ชม. 

และโทโมมิ นากาจิมะ จากญี่ปุ่น แชมป์มาราธอนหญิงเก่าเมื่อปี 2017 กลับมาคว้าแชมป์อีกครั้งด้วยเวลา 3:03:55 ชม. ส่วนระยะฮาล์ฟมาราธอนชาย ริชาร์ด ซาลาโน (ฟิลิปปินส์) ทำเวลา 1:13:25 ชม. และส่วนระยะฮาล์ฟมาราธอนหญิงคริสติน ฮาลาสโก (ฟิลิปปินส์) ทำเวลา 1:25:28 ชม. ด้าน“ฝน-ณัฐธยาน์ ธนรณวัฒน์” อดีตนักวิ่งทีมชาติไทย คว้าที่ 2 ระยะฮาล์ฟมาราธอนหญิง

มิสเตอร์โรมัน ฟลอสเซอร์ ซีอีโอ, จีเอเอ อีเว้นส์ (GAA Events) ในฐานะผู้จัดการแข่งขัน ‘วิ่งมาราธอน ลากูน่า ภูเก็ต 2019’ (Laguna Phuket Marathon) เปิดเผยว่า ในปีนี้เป็นการจัดงานต่อเนื่องครั้งที่ 14 และเป็นที่น่ายินดี ที่มีนักวิ่งทั้งคนไทยและต่างชาติจากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ให้ความสนใจเข้าร่วมงานกว่า 12,000 คน มากกว่าปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ประมาณกว่า 9,000 คน โดยจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 33% จากปีที่ผ่านมา ด้วยตัวเลขการเติบโตดังกล่าวสะท้อนถึงการได้รับความนิยมของการแข่งขันนี้ได้เป็นอย่างดี

งานวิ่งมาราธอน ลากูน่า ภูเก็ต โดดเด่นด้วยเส้นทางแข่งขันที่ได้การรับรองมาตรฐานโดยสมาคมวิ่งมาราธอน นานาชาติและการแข่งขันทางเรียบ หรือ เอมส์ (AIMS) และเป็นสนามที่ควอลิฟายสำหรับการแข่งขันมาราธอนระดับโลกอย่าง “บอสตัน มาราธอน” นอกจากนี้ เป็นสปอร์ตอีเว้นต์ที่สนุกและเหมาะสำหรับครอบครัว ซึ่งได้พัฒนากลายเป็นหนึ่ง ในรายการแข่งขันมาราธอนชั้นนำในระดับภูมิภาคเอเชียอาคเนย์

มิสเตอร์ราวี ชานดราน กรรมการผู้จัดการ กลุ่มลากูน่าภูเก็ต กล่าวว่า “การแข่งขันวิ่งมาราธอน ลากูน่า ภูเก็ตนั้นมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นงานใหญ่ของภูเก็ต และมีส่วนสำคัญที่ทำให้ลากูน่าภูเก็ตได้รับรางวัลเหรียญทองประเภทสนามแข่งขันกีฬายอดเยี่ยมในประเทศไทย จากเวทีรางวัลอุตสาหกรรมกีฬาแห่งเอเชีย เรายังใช้งานนี้เป็นเวทีเพื่อการสร้างความตระหนักและระดมทุนให้กับกองทุนเพื่อเด็ก ซีเอฟเอฟ ซึ่งบริหารโดยมูลนิธิลากูน่าภูเก็ต เพื่อช่วยเหลือเด็กๆกว่า 400 ชีวิต ณ บ้านเด็กกำพร้าและสถานรับเลี้ยง 7 แห่งในภูเก็ต นักวิ่ง ผู้ชม และกองเชียร์ทุกคน สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมการกุศลเพื่อชุมชนภูเก็ตผ่านการร่วมบริจาคเมื่อ ลงทะเบียนแข่งขัน หรือ ณ ศูนย์การเรียนรู้เคลื่อนที่ (Mobile Learning Centre) บูธ CSR ภายในบริเวณงาน นอกจากนี้พนักงานและผู้บริหารลากูน่าภูเก็ตหลายร้อยคนยังร่วมวิ่งในงานเพื่อช่วยระดมทุนและฉลองโอกาสกลุ่มบันยันทรีครบ 25 ปีในปีนี้อีกด้วย”

หนุ่มตรังฉุนแฟนขอแยกทาง บุกถึงบ้านนั่งปรับทุกพี่แฟน ก่อนชักปืนยิงขู่ แต่พลาด เจ็บ 2

หนุ่มตรังฉุนแฟนสาวคบกัน 5 เดือนติดต่อไม่ได้ บุกหาถึงบ้านแต่ไม่พบ จึงนั่งกินเบียร์กับพี่ชายแฟนสาว ก่อนพูดจาไม่เข้าหูชักปืนยิงขู่แต่พลาดเจ็บ 2 ราย ตร.ปิดล้อมจับกุมตัวได้ขณะหลบหนี ค้นรถเจออาวุธปืน กระสุนและยาเสพติดเพียบ

เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น.( 10 มิ.ย.62) เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ฉลอง ได้รับแจ้ง จาก นางสาวเพ็ญนภา เอี่ยมสำราญ อายุ 27 ปี ว่า ถูกแฟนหนุ่มบุกเข้าภายในบ้านและใช้อาวุธปืนยิงใส่บุคคลภายในบ้านได้รับบาดเจ็บ 2 ราย และมีคนอยู่ภายในบ้านอีกหลายคน เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 135/104 หมู่บ้านปฎักวิลล่า ม.4 ถ.ปฏัก ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.เทิดทูล สร้อยสุภาพันธ์ ผกก.สภ.ฉลอง พร้อมด้วย เจ้าหน้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.ฉลอง ร่วมตรวจสอบในเบื้องต้น แต่เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืน และมีคนอยู่ในบ้านเกรงจะได้รับอันตราย เจ้าหน้าที่จึงประสานขอกำลังสนับสนุนจาก เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมตรวจสอบ

ในเบื้องต้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือ นายพิมลศักดิ์ จันทรัฐ อายุ 26 ปี ชาว อ.เมือง จ.ตรัง แฟนหนุ่มของนางสา เพ็ญนภาที่เพิ่งคบหากัน ได้มีปากเสียงและใช้อาวุธปืนยิงขู่ ถูกนายศักดิ์สิทธิ์ เอี่ยมสำราญ อายุ 40 ปี (พี่ชายของน.ส.เพ็ญนภา) กระสุนถูกที่ขา และ นายพงศกร เอี่ยมสำราญ 22 ปี (ลูกชายของนายศักดิ์สิทธิ์ /หลานของน.ส.เพ็ญนภา) ถูกกระสุนที่แขน ได้รับบาดเจ็บ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้จึงกระจายกำลังปิดล้อมที่บ้านหลังดังกล่าว และกำลังเข้าเกลี้ยกล่อมเพื่อให้ นายพิมลศักดิ์ ออกมามอบตัว แต่ระหว่างนั้นผู้ก่อเหตุได้พยายามนำตัว นายศักดิ์สิทธิ์ ผู้บาดเจ็บ ขึ้นรถจักรยานยนต์ไปโรงพยาบาลแต่เมื่อขับรถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้าน แต่ได้พบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปิดล้อมอยู่จึงขับรถย้อนเข้าไปในบ้านใหม่ ต่อมาไม่นานผู้ก่อเหตุได้ขับรถยนต์ โตโยต้าไฮลักซ์ วีโก้ สีดำ ทะเบียน กต 1895 ภูเก็ตพา นายศักดิ์สิทธิ์ และ นายพงศกร ผู้ได้รับบาดเจ็บออกมาจากบ้านอีกครั้งเพื่อหลบหนี แต่ระหว่างนั้นมีรถยนต์ของประชาชนขับเข้ามาและขวางทางออก ทำให้รถของ นายพิมลศักดิ์ ออกไม่ได้ จึงโมโหใช้อาวุธปืนยิงใส่รถยนต์ของประชาชนที่จอดขวางทางจำนวน 3 นัด นายศักดิ์สิทธิ์และ นายพงศกร ผู้ได้รับบาดเจ็บจึงช่วยกันแย่งปืนจนชุลมุนขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงช่วยกันเข้าชาร์จจับกุมตัวไว้ได้ ก่อนทำการตรวจค้นภายในรถ พบของกลางที่ใช้ก่อเหตุ และยาเสพติดหลายรายการประกอบด้วย อาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อโคล์ท ขนาด .45 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนขนาด .45 จำนวน 25 นัด กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 4 นัด นอกจากนี้ยังพบยาเสพติด ทั้ง ยาบ้า กัญชา และยาไอซ์ ตาชั่ง และเครื่องชั่งดิจิตัลอีก 1 อัน ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายสีดำ จึงนำตัวไปสอบสวนที่สภ.ฉลอง ส่วน นายศักดิ์สิทธิ์และนายพงศกร ผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวอบจ.ภูเก็ตนำส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อให้แพทย์ช่วยเหลือ